ม.ล.ปีย์ มาลากุล ได้ให้ข้อสังเกตและรวบรวมการใช้ราชาศัพท์ที่ไม่ถูกต้องที่พบเห็นกันอยู่เสมอไว้
ดังนี้
๑. “ ถวายการต้อนรับ ” “ ถวายความจงรักภักดี ” ชอบใช้กันมากคำนี้ผิด ภาษาไทยมีอยู่แล้ว คือ “ เฝ้า ฯ รับเสด็จ ” หรือ “ รับเสด็จ ” เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ไปที่ใด มีราษฎรมาชุมนุมหนาแน่นก็ใช้ว่า “ ราษฎรมาเฝ้า ฯ รับเสด็จ ฯ อย่างหนาแน่น ” ความจงรักภักดีเป็นของที่ถวายกันไม่ได้ เป็นสิ่งที่มีประจำตน จึงควรใช้ว่า “ มีความจงรักภักดี ” หรือ “ แสดงความจงรักภักดี ”
๒. คำกิริยาใดที่เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว เช่น เสด็จ , เสวย , ตรัส ห้ามใช้คำ “ ทรง ” นำหน้าจะใช้ทรงเสวย ทรงเสด็จ ทรงตรัส ไม่ได้ แต่ถ้าคำกิริยานั้นเป็นคำไทย เช่น ถือ , จับ ,วาด เมื่อจะใช้เป็นราชาศัพท์เติม “ ทรง ” ข้างหน้าได้ เช่น ทรงถือ , ทรงจับ , ทรงวาด
๓. การใช้ “ พระราช ” หรือ “ พระ ” นำหน้าให้ถือหลักว่า เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีใช้ “ พระราช ” นำหน้า เช่น พระราชหัตถเลขา พระราชโทรเลข แต่ถ้าเป็นอวัยวะก็ใช้เพียง “ พระ ” นำหน้า เช่น พระหัตถ์ พระกร พระพาหา คำนามที่ไม่มีราชาศัพท์ให้ใช้ “ พระ ” นำหน้าเป็นราชาศัพท์ เช่น พระเก้าอี้
๔. การใช้คำ “ พระบรม ” นำหน้านั้นใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น
พระบรมราชานุเคราะห์ พระปรมาภิไธย ( พระบรมนามาภิไธย ) พระบรมราโชวาท สำหรับ
สมเด็จพระบรมราชินี ตัดคำว่า “ บรม ” ออก เช่น พระนามาภิไธย พระราโชวาท ถ้าจะกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงลงชื่อ ก็ต้องใช้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย
๕. พระราชวงศ์ที่ทรงฐานันดรศักดิ์มีพระนำหน้า ( พระวรวงศ์เธอ , พระเจ้าวรวงศ์เธอ , พระเจ้าบรมวงศ์เธอ , สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ) ใช้ “ พระ ” นำหน้าราชาศัพท์ เช่น พระหัตถ์ พระกร ถ้าเป็นชั้นหม่อมเจ้าไม่ต้องมี “ พระ ” นำหน้าใช้เพียงราชาศัพท์เฉย ๆ เช่น หัตถ์ กร เป็นต้น
๖. เมื่อกล่าวถึงแสดงใด ๆ ถวายทอดพระเนตรมักจะใช้ว่า “ แสดงหน้าพระพักตร์ ” ซึ่งผิดต้องใช้ว่า “ แสดงเฉพาะพระพักตร์ ” หรือ “ แสดงหน้าที่นั่ง ”
๗. การกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มักใช้กันไม่ถูกต้อง เช่น “ พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ” “ ในหลวงและราชินี ” ใช้เช่นนี้ไม่ถูกต้อง และไม่งดงามอย่างยิ่ง การกล่าวขานถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ใช้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” และไม่ควรใช้ว่า “ ล้นเกล้าล้นกระหม่อม ” ซึ่งไม่มีความหมายอะไรเลย เมื่อจะกล่าวขานถึง “ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ” หรือ “ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ” อย่าใช้คำว่า “ พระราชินี ” หรือ
“ ราชินี ” ซึ่งแปลว่าพระเจ้าแผ่นดินผู้หญิง ถ้าจะเรียกสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธเรียกได้ แต่อย่าเรียกสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ เพราะพระราชสวามีของพระองค์ท่านมิใช่พระมหากษัตริย์ ถ้าจะพูดลำลองว่า “ ในหลวง – สมเด็จ ” อย่างนี้ไม่ผิด สำหรับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ถ้าขานพระนามสั้น ๆ ใช้ทูลกระหม่อมชาย ทูลกระหม่อมหญิง หรือทูลกระหม่อม ถ้าจะเรียกพระนามรวมใช้ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ไม่ใช้ว่า ฟ้าชาย ฟ้าหญิง หรือพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ การเรียกทูลกระหม่อมไม่ต้องใช้ว่า ทูลกระหม่อมฟ้าชาย ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง เพราะคำว่า ทูลกระหม่อม หมายถึงสมเด็จพระราชโอรส สมเด็จพระราชธิดา ซึ่งทรงเป็นเจ้าฟ้าอยู่แล้ว ถ้าทรงเป็นเพียงพระราชโอรส พระราชธิดา เรียกลำลองว่า “ เสด็จ ” คำว่า
“ เสด็จ ” ใช้เฉพาะพระราชโอรส พระธิดา ซึ่งเป็นพระองค์เจ้าเท่านั้น แต่พระองค์เจ้าที่มิได้ทรงเป็นพระราชโอรสพระราชธิดาจะเรียกพระองค์ท่านว่า “ เสด็จ ” ไม่ได้
๘. การเรียกคำแทนพระองค์เจ้า หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง อย่างลำลองพระองค์เจ้าใช้ พระองค์ชาย - พระองค์หญิง , หม่อมเจ้าใช้ ท่านชาย-ท่านหญิง , หม่อมราชวงศ์ใช้ คุณชาย - คุณหญิง , หม่อมหลวง ใช้ คุณ ( ทั้งชายและหญิง )
๙. การเรียกราชทินนามหรือสมณศักดิ์ ถ้าเป็นทางการให้เรียกตามราชทินนามหรือสมณศักดิ์นั้น ๆ เช่น พระยาอนุรักษราชมณเฑียร ก็เรียก พระยาอนุรักษราชมณเฑียร อย่าเรียกเจ้าคุณอนุรักษราชมณเฑียร พระศาสนโสภณ อย่าเรียกว่า เจ้าคุณศาสนโสภณ เว้นแต่การเรียกลำลอง จะเรียกว่าท่านเจ้าคุณหรือเจ้าคุณนั้นไม่ห้าม ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นนาย เช่น นายจำนงราชกิจ นายวรการบัญชา อย่าเปลี่ยนนายเป็นคุณ เพราะนายเป็นราชทินนาม บรรดาศักดิ์นายนี้ไม่คุ้นกัน บางทีก็เขียนแยกเป็นนามกับนามสกุล เช่น นายจำนง ราชกิจ
อย่างนี้ไม่ถูก บรรดาศักดิ์ของผู้เป็นราชสกุลอีกอย่างหนึ่งไม่สู้คุ้นกันคือบรรดาศักดิ์ “ หม่อม ” เช่น หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ หม่อมสนิทวงศ์เสนี หม่อมในที่นี้เป็นบรรดาศักดิ์ เหมือน พระ พระยา ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์หม่อมไม่ใช่เจ้า เป็นหม่อมราชวงศ์
๑๐. นางสนองพระโอษฐ์ นางพระกำนัล ถ้าไม่มีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมราชวงศ์ หรือหม่อมหลวง ใช้คุณนำหน้าชื่อ แต่ถ้าเป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นคุณ
๑๑. สุภาพสตรีที่ได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า มักจะเข้าใจว่าต้องเรียกคุณหญิงเสมอ เป็นการไม่ถูกต้อง ถ้าสุภาพสตรีนั้นเป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง ก็คงเรียก
หม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวงตามเดิม เช่น หม่อมราชวงศ์เบญจวรรณจักรพันธ์ เป็นต้น ถ้าสุภาพสตรีไม่มีฐานันดรศักดิ์ และสมรสแล้วเรียกคุณหญิง เช่น คุณหญิงกรันฑ์ สนิทวงศ์ฯ ถ้ายังไม่ได้สมรสเรียก คุณ เช่น คุณเพียร เวชบุล ถ้าได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เป็นท่านผู้หญิงถึงแม้จะมีฐานันดรศักดิ์เดิมเป็นหม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ก็ตาม เช่น ท่านผู้หญิงจงกลกิตติขจร ท่านผู้หญิงทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ ( หม่อมราชวงศ์พรพรรณ ) แต่ถ้ามีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมของพระราชวงศ์ไม่เรียกเป็นท่านผู้หญิง คงเรียกตามฐานันดรเดิม เช่น หม่อมหลวงสร้อยระย้ายุคล เป็นต้น สุภาพสตรีที่สมรสแล้วแต่ไม่ได้เป็นภริยาของพระยาหรือไม่ได้รับพระราชทานอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อย่าเรียกว่า คุณหญิงคงเป็น “ นาง ” หรือเรียกลำลองก็เรียกว่าคุณนาย
๑๒. คำที่เป็น “ คำสั่ง ” “ คำพูด ” “ ความดำริ ” สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้“ พระบรมราชโองการ ” “ พระราชกระแส ” “ กระแสพระราชดำรัส ” “ พระราชดำริ ” “ กระแสพระราชดำริ ” สำหรับสมเด็จพระบรมราชินีใช้เช่นเดียวกัน เว้นแต่คำสั่งใช้ว่า “ พระราชเสาวนีย์ ”( คำ “ พระบรมราชโองการ” นั้น ใช้เมื่อทรงรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ) ขอให้ระมัดระวังการใช้คำว่า พระบรมราชโองการหรือพระราชเสาวนีย์สองคำนี้เป็นการพูดที่เป็นคำสั่ง คือ มีผลบังคับ ไม่ใช่เป็นการพูดธรรมดา อย่างเช่น นิสิตกราบบังคมทูลขอให้พูดต้องใช้คำว่า “ ขอพระราชทานพระราชกระแส ” หรือ “ ขอพระราชทานพระกระแสพระราชดำรัส ” ไม่ใช่ขอพระราชทานพระบรมราชโองการหรือพระราชเสาวนีย์
๑๓. การใช้คำ “ ถวาย ” ถ้าสิ่งของนั้นเป็นของเล็กใช้ “ ทูลเกล้า ฯ ถวาย ” ถ้าเป็นของใหญ่ใช้ “ น้อมเกล้าฯ ถวาย ” หรือ “ ถวาย ” เฉย ๆ
๑๔. คำว่า “ บอก ” มักใช้ผิดเสมอ คือ ชอบใช้ว่า “ กราบถวายบังคมทูล ” ที่ถูกต้องใช้ว่า “ กราบบังคมทูล ” เช่น “ กราบบังคมทูลถวายรายงาน ” “ กราบบังคมทูลรายงานกิจการ ”
๑๕. คำว่า “ ขอบใจ ” ถ้าจะกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขอบใจ ก็ใช้ว่า “ ทรงขอบใจ ” หรือ “พระราชทานพระราชกระแสขอบใจ” ไม่ใช่ “ขอบพระทัย” เว้นแต่ผู้ที่ทรงขอบใจนั้นเป็นพระราชวงศ์จึงใช้ “ ขอบพระทัย ”
๑๖. การใช้ราชาศัพท์ต้องระมัดระวังในทุกด้าน เช่น ทูลกระหม่อมชายเสด็จร้านค้า เจ้าของร้านถวายหมวกเช่นนี้ จะใช้ถวายพระมาลาไม่ได้ เพราะหมวกนั้นยังไม่ได้เป็นของพระองค์ท่าน คำว่า ฉลองพระองค์ระวังอย่าใช้ว่า “ ทรงฉลองพระองค์ขาสั้น ” เพราะฉลองพระองค์ คือ เสื้อ หรือคำว่าพระภูษา แปลว่า ผ้านุ่ง อย่าใช้ในกรณีแปลว่า ผ้าคลุม ต้องใช้ว่า “ ทรงพระสนับเพลาขาสั้น ” “ ผ้าคลุมพระเกศา ”
๑๗. คำใหม่ ๆ ที่ไม่มีราชาศัพท์โดยเฉพาะ เช่น กระเป๋า เครื่องสำอาง ลิปสติก เซ็ทผม สเปรย์ผม เมื่อจะใช้ให้เป็นราชาศัพท์ คำใดที่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ที่เปลี่ยนไม่ได้ก็ควรคงรูปศัพท์เดิมไว้ เช่น กระเป๋าทรงถือ เครื่องพระสำอาง ลิปสติก ทรงแต่งพระเกศาทรงฉีดพระเกศา ทรงฉีดเส้นพระเกศา เป็นต้น เรื่องที่มีผู้สงสัยอยู่เสมอ คือเมื่อกล่าวถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกล่าวถึงพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ต่างประเทศ และเมื่อกล่าวถึงตัวละครในวรรณคดีที่เป็นเจ้า เช่น อิเหนาจะต้องใช้ราชาศัพท์หรือไม่ ในเรื่องนี้ขอสรุปว่าต้องใช้ตามฐานันดรที่แท้จริง เว้นแต่คำว่า “ บรม ” ใช้สำหรับ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น
๑. “ ถวายการต้อนรับ ” “ ถวายความจงรักภักดี ” ชอบใช้กันมากคำนี้ผิด ภาษาไทยมีอยู่แล้ว คือ “ เฝ้า ฯ รับเสด็จ ” หรือ “ รับเสด็จ ” เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ไปที่ใด มีราษฎรมาชุมนุมหนาแน่นก็ใช้ว่า “ ราษฎรมาเฝ้า ฯ รับเสด็จ ฯ อย่างหนาแน่น ” ความจงรักภักดีเป็นของที่ถวายกันไม่ได้ เป็นสิ่งที่มีประจำตน จึงควรใช้ว่า “ มีความจงรักภักดี ” หรือ “ แสดงความจงรักภักดี ”
๒. คำกิริยาใดที่เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว เช่น เสด็จ , เสวย , ตรัส ห้ามใช้คำ “ ทรง ” นำหน้าจะใช้ทรงเสวย ทรงเสด็จ ทรงตรัส ไม่ได้ แต่ถ้าคำกิริยานั้นเป็นคำไทย เช่น ถือ , จับ ,วาด เมื่อจะใช้เป็นราชาศัพท์เติม “ ทรง ” ข้างหน้าได้ เช่น ทรงถือ , ทรงจับ , ทรงวาด
๓. การใช้ “ พระราช ” หรือ “ พระ ” นำหน้าให้ถือหลักว่า เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีใช้ “ พระราช ” นำหน้า เช่น พระราชหัตถเลขา พระราชโทรเลข แต่ถ้าเป็นอวัยวะก็ใช้เพียง “ พระ ” นำหน้า เช่น พระหัตถ์ พระกร พระพาหา คำนามที่ไม่มีราชาศัพท์ให้ใช้ “ พระ ” นำหน้าเป็นราชาศัพท์ เช่น พระเก้าอี้
๔. การใช้คำ “ พระบรม ” นำหน้านั้นใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น
พระบรมราชานุเคราะห์ พระปรมาภิไธย ( พระบรมนามาภิไธย ) พระบรมราโชวาท สำหรับ
สมเด็จพระบรมราชินี ตัดคำว่า “ บรม ” ออก เช่น พระนามาภิไธย พระราโชวาท ถ้าจะกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงลงชื่อ ก็ต้องใช้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย
๕. พระราชวงศ์ที่ทรงฐานันดรศักดิ์มีพระนำหน้า ( พระวรวงศ์เธอ , พระเจ้าวรวงศ์เธอ , พระเจ้าบรมวงศ์เธอ , สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ) ใช้ “ พระ ” นำหน้าราชาศัพท์ เช่น พระหัตถ์ พระกร ถ้าเป็นชั้นหม่อมเจ้าไม่ต้องมี “ พระ ” นำหน้าใช้เพียงราชาศัพท์เฉย ๆ เช่น หัตถ์ กร เป็นต้น
๖. เมื่อกล่าวถึงแสดงใด ๆ ถวายทอดพระเนตรมักจะใช้ว่า “ แสดงหน้าพระพักตร์ ” ซึ่งผิดต้องใช้ว่า “ แสดงเฉพาะพระพักตร์ ” หรือ “ แสดงหน้าที่นั่ง ”
๗. การกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มักใช้กันไม่ถูกต้อง เช่น “ พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ” “ ในหลวงและราชินี ” ใช้เช่นนี้ไม่ถูกต้อง และไม่งดงามอย่างยิ่ง การกล่าวขานถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ใช้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” และไม่ควรใช้ว่า “ ล้นเกล้าล้นกระหม่อม ” ซึ่งไม่มีความหมายอะไรเลย เมื่อจะกล่าวขานถึง “ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ” หรือ “ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ” อย่าใช้คำว่า “ พระราชินี ” หรือ
“ ราชินี ” ซึ่งแปลว่าพระเจ้าแผ่นดินผู้หญิง ถ้าจะเรียกสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธเรียกได้ แต่อย่าเรียกสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ เพราะพระราชสวามีของพระองค์ท่านมิใช่พระมหากษัตริย์ ถ้าจะพูดลำลองว่า “ ในหลวง – สมเด็จ ” อย่างนี้ไม่ผิด สำหรับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ถ้าขานพระนามสั้น ๆ ใช้ทูลกระหม่อมชาย ทูลกระหม่อมหญิง หรือทูลกระหม่อม ถ้าจะเรียกพระนามรวมใช้ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ไม่ใช้ว่า ฟ้าชาย ฟ้าหญิง หรือพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ การเรียกทูลกระหม่อมไม่ต้องใช้ว่า ทูลกระหม่อมฟ้าชาย ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง เพราะคำว่า ทูลกระหม่อม หมายถึงสมเด็จพระราชโอรส สมเด็จพระราชธิดา ซึ่งทรงเป็นเจ้าฟ้าอยู่แล้ว ถ้าทรงเป็นเพียงพระราชโอรส พระราชธิดา เรียกลำลองว่า “ เสด็จ ” คำว่า
“ เสด็จ ” ใช้เฉพาะพระราชโอรส พระธิดา ซึ่งเป็นพระองค์เจ้าเท่านั้น แต่พระองค์เจ้าที่มิได้ทรงเป็นพระราชโอรสพระราชธิดาจะเรียกพระองค์ท่านว่า “ เสด็จ ” ไม่ได้
๘. การเรียกคำแทนพระองค์เจ้า หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง อย่างลำลองพระองค์เจ้าใช้ พระองค์ชาย - พระองค์หญิง , หม่อมเจ้าใช้ ท่านชาย-ท่านหญิง , หม่อมราชวงศ์ใช้ คุณชาย - คุณหญิง , หม่อมหลวง ใช้ คุณ ( ทั้งชายและหญิง )
๙. การเรียกราชทินนามหรือสมณศักดิ์ ถ้าเป็นทางการให้เรียกตามราชทินนามหรือสมณศักดิ์นั้น ๆ เช่น พระยาอนุรักษราชมณเฑียร ก็เรียก พระยาอนุรักษราชมณเฑียร อย่าเรียกเจ้าคุณอนุรักษราชมณเฑียร พระศาสนโสภณ อย่าเรียกว่า เจ้าคุณศาสนโสภณ เว้นแต่การเรียกลำลอง จะเรียกว่าท่านเจ้าคุณหรือเจ้าคุณนั้นไม่ห้าม ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นนาย เช่น นายจำนงราชกิจ นายวรการบัญชา อย่าเปลี่ยนนายเป็นคุณ เพราะนายเป็นราชทินนาม บรรดาศักดิ์นายนี้ไม่คุ้นกัน บางทีก็เขียนแยกเป็นนามกับนามสกุล เช่น นายจำนง ราชกิจ
อย่างนี้ไม่ถูก บรรดาศักดิ์ของผู้เป็นราชสกุลอีกอย่างหนึ่งไม่สู้คุ้นกันคือบรรดาศักดิ์ “ หม่อม ” เช่น หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ หม่อมสนิทวงศ์เสนี หม่อมในที่นี้เป็นบรรดาศักดิ์ เหมือน พระ พระยา ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์หม่อมไม่ใช่เจ้า เป็นหม่อมราชวงศ์
๑๐. นางสนองพระโอษฐ์ นางพระกำนัล ถ้าไม่มีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมราชวงศ์ หรือหม่อมหลวง ใช้คุณนำหน้าชื่อ แต่ถ้าเป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นคุณ
๑๑. สุภาพสตรีที่ได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า มักจะเข้าใจว่าต้องเรียกคุณหญิงเสมอ เป็นการไม่ถูกต้อง ถ้าสุภาพสตรีนั้นเป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง ก็คงเรียก
หม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวงตามเดิม เช่น หม่อมราชวงศ์เบญจวรรณจักรพันธ์ เป็นต้น ถ้าสุภาพสตรีไม่มีฐานันดรศักดิ์ และสมรสแล้วเรียกคุณหญิง เช่น คุณหญิงกรันฑ์ สนิทวงศ์ฯ ถ้ายังไม่ได้สมรสเรียก คุณ เช่น คุณเพียร เวชบุล ถ้าได้รับพระราชทานทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เป็นท่านผู้หญิงถึงแม้จะมีฐานันดรศักดิ์เดิมเป็นหม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ก็ตาม เช่น ท่านผู้หญิงจงกลกิตติขจร ท่านผู้หญิงทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ ( หม่อมราชวงศ์พรพรรณ ) แต่ถ้ามีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมของพระราชวงศ์ไม่เรียกเป็นท่านผู้หญิง คงเรียกตามฐานันดรเดิม เช่น หม่อมหลวงสร้อยระย้ายุคล เป็นต้น สุภาพสตรีที่สมรสแล้วแต่ไม่ได้เป็นภริยาของพระยาหรือไม่ได้รับพระราชทานอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อย่าเรียกว่า คุณหญิงคงเป็น “ นาง ” หรือเรียกลำลองก็เรียกว่าคุณนาย
๑๒. คำที่เป็น “ คำสั่ง ” “ คำพูด ” “ ความดำริ ” สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้“ พระบรมราชโองการ ” “ พระราชกระแส ” “ กระแสพระราชดำรัส ” “ พระราชดำริ ” “ กระแสพระราชดำริ ” สำหรับสมเด็จพระบรมราชินีใช้เช่นเดียวกัน เว้นแต่คำสั่งใช้ว่า “ พระราชเสาวนีย์ ”( คำ “ พระบรมราชโองการ” นั้น ใช้เมื่อทรงรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ) ขอให้ระมัดระวังการใช้คำว่า พระบรมราชโองการหรือพระราชเสาวนีย์สองคำนี้เป็นการพูดที่เป็นคำสั่ง คือ มีผลบังคับ ไม่ใช่เป็นการพูดธรรมดา อย่างเช่น นิสิตกราบบังคมทูลขอให้พูดต้องใช้คำว่า “ ขอพระราชทานพระราชกระแส ” หรือ “ ขอพระราชทานพระกระแสพระราชดำรัส ” ไม่ใช่ขอพระราชทานพระบรมราชโองการหรือพระราชเสาวนีย์
๑๓. การใช้คำ “ ถวาย ” ถ้าสิ่งของนั้นเป็นของเล็กใช้ “ ทูลเกล้า ฯ ถวาย ” ถ้าเป็นของใหญ่ใช้ “ น้อมเกล้าฯ ถวาย ” หรือ “ ถวาย ” เฉย ๆ
๑๔. คำว่า “ บอก ” มักใช้ผิดเสมอ คือ ชอบใช้ว่า “ กราบถวายบังคมทูล ” ที่ถูกต้องใช้ว่า “ กราบบังคมทูล ” เช่น “ กราบบังคมทูลถวายรายงาน ” “ กราบบังคมทูลรายงานกิจการ ”
๑๕. คำว่า “ ขอบใจ ” ถ้าจะกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขอบใจ ก็ใช้ว่า “ ทรงขอบใจ ” หรือ “พระราชทานพระราชกระแสขอบใจ” ไม่ใช่ “ขอบพระทัย” เว้นแต่ผู้ที่ทรงขอบใจนั้นเป็นพระราชวงศ์จึงใช้ “ ขอบพระทัย ”
๑๖. การใช้ราชาศัพท์ต้องระมัดระวังในทุกด้าน เช่น ทูลกระหม่อมชายเสด็จร้านค้า เจ้าของร้านถวายหมวกเช่นนี้ จะใช้ถวายพระมาลาไม่ได้ เพราะหมวกนั้นยังไม่ได้เป็นของพระองค์ท่าน คำว่า ฉลองพระองค์ระวังอย่าใช้ว่า “ ทรงฉลองพระองค์ขาสั้น ” เพราะฉลองพระองค์ คือ เสื้อ หรือคำว่าพระภูษา แปลว่า ผ้านุ่ง อย่าใช้ในกรณีแปลว่า ผ้าคลุม ต้องใช้ว่า “ ทรงพระสนับเพลาขาสั้น ” “ ผ้าคลุมพระเกศา ”
๑๗. คำใหม่ ๆ ที่ไม่มีราชาศัพท์โดยเฉพาะ เช่น กระเป๋า เครื่องสำอาง ลิปสติก เซ็ทผม สเปรย์ผม เมื่อจะใช้ให้เป็นราชาศัพท์ คำใดที่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ที่เปลี่ยนไม่ได้ก็ควรคงรูปศัพท์เดิมไว้ เช่น กระเป๋าทรงถือ เครื่องพระสำอาง ลิปสติก ทรงแต่งพระเกศาทรงฉีดพระเกศา ทรงฉีดเส้นพระเกศา เป็นต้น เรื่องที่มีผู้สงสัยอยู่เสมอ คือเมื่อกล่าวถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกล่าวถึงพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ต่างประเทศ และเมื่อกล่าวถึงตัวละครในวรรณคดีที่เป็นเจ้า เช่น อิเหนาจะต้องใช้ราชาศัพท์หรือไม่ ในเรื่องนี้ขอสรุปว่าต้องใช้ตามฐานันดรที่แท้จริง เว้นแต่คำว่า “ บรม ” ใช้สำหรับ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น